บาดแผล แบ่งออกเป็นชนิดต่างๆ ดังนี้
1. แผลฟกช้ำ
การปฐมพยาบาล
1.ยกและประคองส่วนที่บาดเจ็บให้อยู่ในท่าที่สบาย
2.ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบเบาๆบริเวณแผลช้ำ
นานประมาณ 30 นาที แล้วใช้ผ้ายืดพันไว้ให้แน่นพอสมควร
เพื่อให้เลือดหยุดและช่วยจำกัดการเคลื่อนไหว และให้บริเวณแผลช้ำนั้นอยู่นิ่งๆนาน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้ประคบบริเวณแผลด้วยความร้อน
เพื่อให้อาการบวมช้ำลดลง
2. แผลถลอก เป็นบาดแผลตื้นๆ
มีผิวหนังถลอกหรือรอยขูดข่วน มีเลือดออกเล็กน้อย และเลือดมักหยุดไหลเอง
การปฐมพยาบาล
1.ห้ามเลือด ถ้าเลือดยังไหลไม่หยุด
โดยใช้ผ้าสะอาดกดไว้เบาๆหรือใช้ผ้าพันแผลกดแผลไว้นิ่งๆ
2.ล้างทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาด
และเอาเศษผงต่างๆหรือกรวดดินออกให้หมด
4.ทำแผลด้วยยาใส่แผลสด เช่น เบตาดีน
ไม่ต้องปิดแผล
การปฐมพยาบาล
ให้ผู้บาดเจ็บนอนพักนิ่ง ๆ ยกปลายเท้าสูง ให้โลหิตไปเลี้ยงสมองมากที่สุด ห่มผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ไม่ควรให้ผู้บาดเจ็บกินอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีเลือดออกมากต้องห้ามเลือด ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซและรีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
3. บาดแผลฉีกขาด เป็นแผลที่เกิดจากวัตถุไม่มีคมที่มีความแรงทำให้ผิวหนังฉีกขาดได้
ขอบแผลมักขาดกะรุ่งกะริ่ง หรือมีการชอกช้ำของแผลมาก จะเจ็บปวดมาก
มักจะมีการสัมผัสกับสิ่งปนเปื้อนได้มาก จึงมีแนวโน้มของการติดเชื้อสูง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
1.ปิดแผลทันทีด้วยผ้าที่สะอาด
กดไว้เบาๆหรือใช้ผ้าพันแผลกดแผลไว้นิ่งๆ เพื่อเป็นการห้ามเลือด
2.ล้างทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาด
และใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบๆแผล
3.รีบนำส่งแพทย์เพื่อตกแต่งบาดแผล
และเย็บแผล ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และอาจต้องรับประทานยาแก้อักเสบ
ถ้าแผลสกปรกมาก
4. แผลถูกแทง เกิดจากวัตถุปลายแหลม เช่น มีดปลายแหลม กริช ไม้ ฯลฯ
แม้ว่าปากแผลจะเล็ก แต่มักจะลึก ถ้าลึกลงไปถูกอวัยวะภายในที่สำคัญ เช่น ปอด หัวใจ
ตับ ไต กระเพาะอาหาร ฯลฯ จะทำให้ตกเลือดภายในได้มา
การปฐมพยาบาล
ถ้าผู้ป่วยมีอาการเป็นลม หน้าซีด แสดงว่ามีเลือดตกใน อย่าตกใจให้ผู้ป่วยนอนราบ ศีรษะต่ำ ไม่ควรให้กินอะไรทั้งสิ้น รีบนำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจบาดแผลที่ถูกแทงว่าถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่ และหากพบสิ่งหนึ่งสิ่งใดหักคาอยู่บนปากแผล อย่าพยายามดึงออก เพราะจะทำให้เลือดออกมากขึ้น หรือเพิ่มอันตรายต่ออวัยวะใกล้เคียง ควรใช้ผ้าสะอาดบางๆ คลุมไว้ และให้นอนนิ่งๆ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยจัดผู้ป่วยให้นอนราบขณะเคลื่อนย้าย
ถ้าผู้ป่วยมีอาการเป็นลม หน้าซีด แสดงว่ามีเลือดตกใน อย่าตกใจให้ผู้ป่วยนอนราบ ศีรษะต่ำ ไม่ควรให้กินอะไรทั้งสิ้น รีบนำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ตรวจบาดแผลที่ถูกแทงว่าถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่ และหากพบสิ่งหนึ่งสิ่งใดหักคาอยู่บนปากแผล อย่าพยายามดึงออก เพราะจะทำให้เลือดออกมากขึ้น หรือเพิ่มอันตรายต่ออวัยวะใกล้เคียง ควรใช้ผ้าสะอาดบางๆ คลุมไว้ และให้นอนนิ่งๆ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยจัดผู้ป่วยให้นอนราบขณะเคลื่อนย้าย
5. แผลถูกยิง เป็นแผลที่เกิดจากกระสุนปืน เห็นเป็นรอยกระสุนปืนเข้าและออก
ซึ่งรูเข้าจะเล็กกว่ารูออก หรือกระสุนอาจฝังในก็ได้ มีอันตรายต่ออวัยวะภายในและอาจมีการตกเลือดภายในได้
ถ้ากระสุนเข้าไปถูกอวัยวะที่สำคัญภายใน
การปฐมพยาบาล
ให้ผู้บาดเจ็บนอนพักนิ่ง ๆ ยกปลายเท้าสูง ให้โลหิตไปเลี้ยงสมองมากที่สุด ห่มผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ไม่ควรให้ผู้บาดเจ็บกินอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีเลือดออกมากต้องห้ามเลือด ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซและรีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
6. แผลถูกตำ ส่วนมากเกิดจากวัตถุประเภทตะปู เข็ม หรือเข็มหมุด เศษแก้ว หนาม ทิ่มตำ
ซึ่งปกติแผลประเภทนี้จะมีเลือดออกไม่มากนัก หรือแทบไม่เห็นเลือดไหลออกมาเลย
และแผลเกือบจะปิดในทันที จึงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากวัตถุที่ทำให้เกิดแผลอาจมีสปอร์ของเชื้อบาดทะยักหรือเชื้อโรคอื่นๆติดอยู่
โดยเฉพาะถ้าวัตถุนั้นเคยสัมผัสดินมาก่อน
การปฐมพยาบาล
ให้ดึงของแหลมที่ทิ่มตำผิวหนังนั้นออก เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ปิดแผลด้วยผ้าที่สะอาด แล้วรีบนำส่งพบแพทย์ทันที เพื่อทำความสะอาดแผลที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง ชะล้างเอาสิ่งสกปรกออกให้หมด อาจต้องเปิดแผลให้กว้างขึ้น เพื่อไม่ให้แผลกลายเป็นแผลติดเชื้อ และต้องรับประทานยาแก้อักเสบพร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
การปฐมพยาบาล
ให้ดึงของแหลมที่ทิ่มตำผิวหนังนั้นออก เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ปิดแผลด้วยผ้าที่สะอาด แล้วรีบนำส่งพบแพทย์ทันที เพื่อทำความสะอาดแผลที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง ชะล้างเอาสิ่งสกปรกออกให้หมด อาจต้องเปิดแผลให้กว้างขึ้น เพื่อไม่ให้แผลกลายเป็นแผลติดเชื้อ และต้องรับประทานยาแก้อักเสบพร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
7. บาดแผลถูกสัตว์กัดสัตว์ทุกชนิด (โดยเฉพาะสุนัข แมว หนู รวมทั้งคน)
จะมีเชื้อโรคอยู่ในปาก เมื่อถูกกัดบาดแผลที่ลึกจะนำเชื้อโรคเข้าสู่เนื้อเยื่อได้มาก
การปฐมพยาบาลจึงต้องทำทันที แล้วตามด้วยการรักษาของแพทย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น